ในจังหวัดเขตสายไหม มีพื้นที่หลักได้แก่
เขตสายไหม (อังกฤษ: Silk Road หรือ Silk Route) เป็นชุดเส้นทางการส่งการค้าและวัฒนธรรมซึ่งเป็นศูนย์กลางของอันตรกิริยาทางวัฒนธรรมผ่านภูมิภาคของทวีปเอเชียที่เชื่อมตะวันตกและตะวันออกโดยการโยงพ่อค้าวาณิช ผู้แสวงบุญ นักบวช ทหาร ชนเร่ร่อนและผู้อาศัยในเมืองจากจีนและอินเดียไปยังทะเลเมดิเตอร์เรเนียนระหว่างเวลาหลายสมัย[1]
เส้นทางสายไหมมีความยาว 6,437 กิโลเมตร (4,000 ไมล์) ได้ชื่อมาจากการค้าผ้าไหมจีนที่มีกำไรมากตลอดเส้นทาง เริ่มตั้งแต่ราชวงศ์ฮั่น (206 ปีก่อน ค.ศ. – ค.ศ. 220) ราชวงศ์ฮั่นขยายเส้นทางการค้าส่วนเอเชียกลางราว 114 ปีก่อน ค.ศ. ส่วนใหญ่ผ่านคณะทูตและการสำรวจของผู้แทนทางการทูตจักรวรรดิจีน จางเชียน (Zhang Qian)[2] ชาวจีนสนใจมากกับความปลอดภัยของผลิตถัณฑ์การค้าของพวกตนและขยายกำแพงเมืองจีนเพื่อประกันการคุ้มครองเส้นทางการค้านี้[3]
การค้าบนเส้นทางสายไหมเป็นปัจจัยสำคัญต่อการพัฒนาของอารยธรรมจีน อนุทวีปอินเดีย เปอร์เซีย ทวีปยุโรปและคาบสมุทรอาหรับ โดยเปิดอันตรกิริยาทางการเมืองและเศรษฐกิจทางไกลระหว่างอารยธรรม[4] แม้ผ้าไหมเป็นสินค้าหลักจากจีน แต่ก็มีการค้าสินค้าอื่นจำนวนมาก ศาสนา ปรัชญาหลายความเชื่อและเทคโนโลยีต่าง ๆ จนถึงโรคก็ไปมาตามเส้นทางสายไหมเช่นกัน นอกเหนือจากการค้าทางเศรษฐกิจแล้ว เส้นทางสายไหมยังใช้เป็นการค้าทางวัฒนธรรมในบรรดาอารยธรรมตามเครือข่ายเส้นทางด้วย[5]
ผู้ค้าหลักระหว่างยุคโบราณ คือ ชาวจีน เปอร์เซีย กรีก ซีเรีย โรมัน อาร์มีเนีย อินเดียและแบกเตรีย (Bactrian) และตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 5 ถึง 8 เป็นชาวซอกเดีย (Sogdian) ระหว่างการเจริญของศาสนาอิสลาม พ่อค้าอาหรับกลายมาโดดเด่น
ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 38 พ.ศ. 2557 ณ กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ มีมติให้ขึ้นทะเบียนเส้นทางสายไหมในจีน คาซัคสถาน และคีร์กีซสถาน เป็นมรดกโลกภายใต้ชื่อ เส้นทางสายไหม : โครงข่ายเส้นทางฉนวนฉางอาน-เทียนชาน โดยให้เหตุผลว่า เส้นทางนี้เป็นที่ยอมรับกันว่ามรดกทางอารยธรรของมนุษยชาติ ในฐานะเป็นเส้นทางโบราณในการติดต่อค้าขายและสื่อสารระหว่างตะวันออกกับตะวันตก

สิ่งที่ทำให้ลูกค้าใช้บริการกับเรา

ในสิ่งที่ทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นในการบริการกับเรานั้นเกิดจากเราให้บริการด้วยความเข้าใจและชำนาญด้วยประสมการณ์ในการเจาะบาดาลเขตสายไหม ในราคาที่สมเหตุสมผล
ให้ความสำคัญกับความครบถ้วนถูกต้องของรายละเอียดงาน พื้นที่นั้นๆ มีความยุติธรรม ใจรักงานบริการ ยึดความถูกต้องเที่ยงตรงเป็นหลัก
ให้ความสำคัญกับผู้ใช้บริการทุกท่านด้วยความเป็นกันเอง สะดวก สะบาย รวดเร็ว มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน มีความเป็นมืออาชีพ ทำให้บริการของเราเกิดความเชื่อมั่น ด้วยเหตุนี้ ลูกค้าจึงสามารถเลือกสิ่งที่เหมาะสมที่สุดให้กับตัวลูกค้าทุกท่าน ได้เป็นอย่างดีเสมอมา
การสำรวจน้ำบาดาล (Groundwater Exploration)
บางคนอาจสงสัยว่าเราจะมีวิธีการ รู้ได้ยังไงว่าในพื้นที่ของเรานั้นมีน้ำบาดาลอยู่หรือไม่ซึ่งในบทความนี้จะพาให้ทุกคนรู้ว่าวิธีการหาน้ำบาดาล ว่าทำได้อย่างไรกับพวกเราเจาะบาดาลเขตสายไหม

ในอดีตคนเรามีความพยายามที่จะเอาชนะธรรมชาติในวิธีการต่างๆมาโดยตลอด ซึ่งก็มีแพ้บ้าง ชนะบ้างเป็นธรรมดา และการหาแหล่งน้ำมาใช้ทดแทนน้ำผิวดินก็เหมือนกัน เราก็มีวิธีการต่างๆที่จะหาน้ำมาใช้และมีวิวัฒนาการมาโดยตลอดเช่นกัน
ในสมัยก่อนน้ำบาดาลค่อนข้างตื้นจึงทำให้กาารหาน้ำมาใช้เป็นเรื่องง่ายหรือการเจาะบดาลก็ทำได้ง่าย ดังนั้นเราจึงสามารถขุดบ่อลึกประมาณไม่ถึง 10 เมตร ก็ถึงชั้นน้ำบาดาลและเราก็มีน้ำใช้ได้ตลอดทั้งปี ปัจจุบันมีจำนวนผู้คนมากขึ้น ความต้องการในการใช้น้ำก็มากขึ้นด้วยเช่นกัน ดังนั้นระดับน้ำบาดาลก็ลดลงไปเรื่อยๆ จึงทำให้น้ำบาดาลก็อยู่ลึกลงไปบางที่ต้องเจาะบาดาล 100 เมตร ถึงจะเจอน้ำใช้
กล่าวคือเราต้องขุดลึกลงไปหลาย 10 เมตร จึงจะเจอน้ำ และมันก็เกินกำลังของคนที่จะขุดด้วยจอบกับเสียม จึงต้องหาวิธีการและอุกรณ์ที่ทันสมัยใช้เครื่องมือใหญ่ๆ เข้ามาช่วย เช่น เครื่องเจาะน้ำบาดาล เป็นต้น

การสำรวจน้ำบาดาลหรือการหาปริมานของน้ำบาดาลในปัจจุบัน เป็นการสำรวจที่ใช้หลักการและวิธีการง่ายๆ คือ น้ำเป็นตัวนำไฟฟ้า ดังนั้นเราก็จะปล่อยกระแสไฟฟ้าลงไปในชั้นดินและหินข้างล่าง แล้ววัดค่าความต่างศักย์ของไฟฟ้า จากนั้นก็จะนำมาคำนวนตามสูตร V = IR (กฏของโอห์ม)
เมื่อเราทำการปล่อยกระแสไฟฟ้า (I) ซึ่งเราได้ทราบค่าของกระแสไฟฟ้า แล้วจึงวัดค่าความต่างศักย์ (V)ว่าได้ค่าเท่าไหร่ เราก็ใช้วิธีการคำนวนหาค่าความต้านทานไฟฟ้า (R) ได้ ซึ่งวิธีการนี้เรียกว่าการสำรวจน้ำบาดาล
แบบ รีซีสติวิตี้ (Resistivity Survey) ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก ซึ่งความน่าจะเป็นของการสำรวจด้วยวิธีนี้ ก็ประมาณ 80 เปอร์เซนต์
ติดต่อสถานที่ทำการของเจ้าพนักงานน้ำบาดาลประจำท้องที่ ในเขตน้ำบาดาลโดยยื่นคำขอ ตามแบบ นบ.1 พร้อมแนบสำเนา
1) หนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน
2) หนังสือมอบอำนาจและสำเนาประจำตัวบัตรประชาชนของผู้มอบอำนาจ (กรณีผู้ขอรับใบอนุญาตฯ ไม่มายื่นด้วยตนเอง พร้อมติดอากรแสตมป์ 30 บาท)
3) หนังสือใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (กรณีโรงงานอุตสาหกรรม)
4) หนังสือรับรองนิติบุคคล (กรณีผู้ขอรับใบอนุญาตฯ เป็นนิติบุคคล)
พนักงานน้ำบาดาลประจำท้องที่ออกใบรับคำขอและดำเนินการตรวจสอบเอกสาร ซึ่งจะทำการตรวจสอใช้เวลาภายใน 1 วันทำการ หากเอกสารและหลักฐานไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน แจ้งให้ผู้ขอรับใบอนุญาตทราบเพื่อทำการยื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมอีกครั้ง โดยผู้ขออนุญาตฯ จะต้อองมีการชำระค่าธรรมเนียมคำขอ 10 บาท
เมือเอกสารหลักฐานมีความครบถ้วนแล้ว จะทำการเสนอผู้มีอำนาจดำเนินการพิจารณาออกใบอนุญาต / ไม่ออกใบอนุญาต
ในกรณีที่ได้รับอนุญาตแล้ว
จะทำการแจ้งผู้ขอรับใบอนุญาตให้มารับใบอนุญาตและชำระค่าธรรมเนียม
ในกรณีที่ไม่ได้รับอนุญาต
แจ้งเหตุผลพร้อมทั้งสิทธิอุทธรณ์ให้ผู้ขอรับใบอนุญาตได้รับทราบ
หมายเหตุ :
ในกรณีที่มีการขอต่ออายุใบอนุญาตเจาะบาดาลเขตสายไหม การขอรับใบแทน การขอโอน และการขอแก้ไขใบอนุญาต ให้ยื่นคำขอพร้อมเอกสารหลักฐาน ณ ที่ทำการของพนักงานน้ำบาดาลประจำท้องที่เพื่อพิจารณาคำขอต่อไป
ระยะเวลาในการพิจารณาขอเจาะบาดาล
1. พื้นที่ในเขตวิกฤตการณ์น้ำบาดาล
(รวม 7 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี นครปฐม พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี สมุทรสาคร สมุทรปราการ)
ขนาดบ่อน้ำบาดาล : 2-3 นิ้ว
ปริมาณน้ำบาดาล : ไม่เกินวันละ 100 ลบ.ม.
ระยะเวลาดำเนินการ : 2 วันทำการ
ขนาดบ่อน้ำบาดาล : 4 นิ้วขึ้นไป
ปริมาณน้ำบาดาล : มากกว่าวันละ 100 ลบ.ม
ระยะเวลาดำเนินการ : 17 วันทำการ
2. พื้นที่นอกเขตวิกฤตการณ์น้ำบาดาล (รวม 70 จังหวัด)
ขนาดบ่อน้ำบาดาล : ไม่เกิน 4นิ้ว
ปริมาณน้ำบาดาล : ไม่เกินวันละ 300 ลบ.ม.
ระยะเวลาดำเนินการ : 2 วันทำการ
ขนาดบ่อน้ำบาดาล : 5 นิ้วขึ้นไป
ปริมาณน้ำบาดาล : มากกว่าวันละ 300 ลบ.ม.
ระยะเวลาดำเนินการ : 17 วันทำการ
แจ้งผลการพิจารณา
แจ้งผู้รับใบอนุญาตชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ตามขนาดบ่อ
แจ้งผลการพิจารณาไม่ออกใบอนุญาต
แจ้งผลการพิจารณาและเหตุผล พร้อมทั้งสิทธิอุทธรณ์ให้ผู้ขอรับใบอนุญาตทราบ
ระยะเวลาดำเนินการ : 2 วันทำการ
เป้าหมายของเรา

เราจะเป็นบริษัทอันดับต้นๆ ที่ให้บริการเจาะบาดาลในพื้นที่เขตสายไหม เพื่อเพิ่มความสามารถในการมีน้ำใช้ในธุรกิจของลูกค้าเพื่อความได้เปรียบทางด้านการแข่งขัน
ในจังหวัดเขตสายไหม เศรษฐกิจสำคัญๆ รวมไปถึงทั่วภูมิภาคประเทศไทย เราให้บริการด้วยความจริงใจตรงไปตรงมา สะดวก ง่ายรวยเร็ว แจ้งราคาชัดเจนก่อนลงหน้างานไม่เก็บเงินก่อน โดยใช้เครื่องมืออุปกรณ์ทันสมัยมีความเหมาะสมกับพื้นที่หน้างานนั้นๆของลูกค้า
เราคือทีมงานที่มีคุณภาพเป้าหมายชัดเจน มุ้งพัฒนาที่ต้องการยกระดับและรักษามาตรฐานในการให้บริการให้ดีเลิศยิ่งๆขึ้นไป เราจึงเป็นทีช่างเจาะบาดาลเขตสายไหม ที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้าตลอดไป
สรุปเจาะน้ำบาดาล กับเราดีอย่างไร

เราเป็นบริษัทเจาะบาดาลเขตสายไหม จึงจะทำให้ มีความสะดวก รวดเร็ว ร่วมไปถึงอุปกรณ์ที่ทันสมัยเป็นทีมช่างเจาะบาดาลที่ได้รับใบประกออบวิชาชีพจากกรมทรัพย์ มั่นใจได้ในคุณภาพ
เพราะในการทำงานทีมช่างของเราได้มีการฝึกอบรมทำการเจาะบาดาล จึงทำให้มีความเข้าใจการเจาะบาดาล ทำงานตามขั้นตอนอย่างถูกวิธีเพื่อให้ได้งานที่ดีมีคุณภาพตามมาตฐาน
มีการแจ้งราคาชัดเจนก่อนทำงานไม่มีบวกเพิ่ม ไม่มีน้ำไม่เจอน้ำเราไม่คิดเงิน มีการรับปะกันที่ชัดเจน เพื่อความสะบายใจของลูกค้า
มีการตรวสอบ ความถูกต้องรีเช็คจะมีการเป่าน้ำบาดาลทดสอบ6-72 ชั่วโมง ให้แน่ใจก่อนส่งงานดังนั้น ลูกค้าไว้ใจได้เลยว่าลูกค้าได้บ่อบาดาลที่มีคุณภาพ มีความสมเหตุสมผลกับราคา ตามความต้องการของลูกค้าแน่นอน กับทีงเจาะบาดาลเขตสายไหม ของเรา