ในจังหวัดเขตลาดพร้าว มีพื้นที่หลักได้แก่
เขตกลาดพร้าว (ห้าแยกลาดพร้าว) ถนนพหลโยธินและถนนวิภาวดีรังสิต
แยกรัชดา-ลาดพร้าว ถนนรัชดาภิเษก
แยกภาวนา ซอยลาดพร้าว 41
แยกโชคชัย 4 ถนนโชคชัย 4
แยกเกตุนุติ ซอยลาดพร้าว 64
แยกลาดพร้าว 80 ซอยลาดพร้าว 80
จุดตัดกับถนนประดิษฐ์มนูธรรม
แยกลาดพร้าว 112 ซอยลาดพร้าว 112
แยกมหาดไทย ซอยลาดพร้าว 122
แยกลาดพร้าว 101 ถนนลาดพร้าว 101
แยกแฮปปี้แลนด์ ถนนแฮปปี้แลนด์
แยกบางกะปิ (สามแยก) ถนนศรีนครินทร์
แยกบางกะปิ (สี่แยก) ถนนนวมินทร์ ถนนเสรีไทย และถนนพ่วงศิริ
ถนนลาดพร้าว (อักษรโรมัน: Thanon Lat Phrao) เป็นถนนสายหนึ่งในกรุงเทพมหานคร มีจุดเริ่มต้นที่ห้าแยกลาดพร้าว (หรือที่นิยมเรียกว่า "ปากทางลาดพร้าว") ในพื้นที่เขตจตุจักร ซึ่งเป็นจุดตัดกับถนนพหลโยธินและถนนวิภาวดีรังสิต มีทิศทางมุ่งไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านจุดตัดกับถนนรัชดาภิเษก ข้ามคลองน้ำแก้ว ผ่านพื้นที่แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง ในระยะสั้น ๆ ข้ามคลองลาดพร้าวเข้าสู่พื้นที่เขตวังทองหลาง เป็นเส้นแบ่งเขตการปกครองระหว่างแขวงสะพานสอง กับแขวงวังทองหลาง ตัดกับถนนโชคชัย 4 และถนนประดิษฐ์มนูธรรม จากนั้นเป็นเส้นแบ่งระหว่างแขวงคลองเจ้าคุณสิงห์กับแขวงพลับพลา จากนั้นตัดกับถนนลาดพร้าว 101 เข้าสู่พื้นที่แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ ผ่านสามแยกบางกะปิซึ่งเป็นจุดตัดกับถนนศรีนครินทร์ ไปสิ้นสุดที่สี่แยกบางกะปิซึ่งเป็นจุดตัดกับถนนนวมินทร์และถนนพ่วงศิริ โดยมีถนนที่ตรงต่อเนื่องต่อไปคือถนนเสรีไทย
ถนนลาดพร้าวได้รับการกำหนดเป็นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3185 ต่อมาเปลี่ยนเป็นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 336 แต่ปัจจุบันอยู่ในความควบคุมของกรุงเทพมหานคร (ยกเว้นสะพานเข้าถนนลาดพร้าว ที่ยังอยู่ในความดูแลของกรมทางหลวง) ช่วงระหว่างห้าแยกลาดพร้าวจนถึงจุดตัดกับถนนรัชดาภิเษก มีระบบขนส่งมวลชนรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล ในขณะนี้กำลังดำเนินการก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (คาดหมายสามารถเปิดให้บริการในปลายปี พ.ศ. 2564) เริ่มตั้งแต่บริเวณสี่แยกรัชดา-ลาดพร้าว ไปจนถึงสามแยกบางกะปิ ทั้งนี้กรุงเทพมหานครได้แนะนำประชาชนให้เผื่อเวลาในการเดินทางเนื่องจากการจราจรนั้นจะติดขัดมากโดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วน โดยสามารถใช้เส้นทางถนนนาคนิวาส ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ซอยลาดพร้าว 80 ซอยลาดพร้าว 64 และทางพิเศษฉลองรัช (รามอินทรา-อาจณรงค์) เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่อาจจะติดขัดในช่วงเวลาเร่งด่วนได้
ในปี พ.ศ. 2556 ถนนลาดพร้าวได้รับการจัดอันดับให้เป็นถนนที่มีการจราจรติดขัดที่สุดในกรุงเทพมหานคร[1] ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 มีรายงานจากกรมควบคุมมลพิษว่า ถนนลาดพร้าวมีปริมาณฝุ่นละอองที่มีค่า PM2.5 อยู่ที่ 91 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินกว่าค่ามาตรฐาน นับว่ามากที่สุดในกรุงเทพมหานคร เทียบเท่ากับถนนอินทรพิทักษ์ในฝั่งธนบุรี

สิ่งที่ทำให้ลูกค้าใช้บริการกับเรา

ในสิ่งที่ทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นในการบริการกับเรานั้นเกิดจากเราให้บริการด้วยความเข้าใจและชำนาญด้วยประสมการณ์ในการเจาะบาดาลเขตลาดพร้าว ในราคาที่สมเหตุสมผล
ให้ความสำคัญกับความครบถ้วนถูกต้องของรายละเอียดงาน พื้นที่นั้นๆ มีความยุติธรรม ใจรักงานบริการ ยึดความถูกต้องเที่ยงตรงเป็นหลัก
ให้ความสำคัญกับผู้ใช้บริการทุกท่านด้วยความเป็นกันเอง สะดวก สะบาย รวดเร็ว มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน มีความเป็นมืออาชีพ ทำให้บริการของเราเกิดความเชื่อมั่น ด้วยเหตุนี้ ลูกค้าจึงสามารถเลือกสิ่งที่เหมาะสมที่สุดให้กับตัวลูกค้าทุกท่าน ได้เป็นอย่างดีเสมอมา
การสำรวจน้ำบาดาล (Groundwater Exploration)
บางคนอาจสงสัยว่าเราจะมีวิธีการ รู้ได้ยังไงว่าในพื้นที่ของเรานั้นมีน้ำบาดาลอยู่หรือไม่ซึ่งในบทความนี้จะพาให้ทุกคนรู้ว่าวิธีการหาน้ำบาดาล ว่าทำได้อย่างไรกับพวกเราเจาะบาดาลเขตลาดพร้าว

ในอดีตคนเรามีความพยายามที่จะเอาชนะธรรมชาติในวิธีการต่างๆมาโดยตลอด ซึ่งก็มีแพ้บ้าง ชนะบ้างเป็นธรรมดา และการหาแหล่งน้ำมาใช้ทดแทนน้ำผิวดินก็เหมือนกัน เราก็มีวิธีการต่างๆที่จะหาน้ำมาใช้และมีวิวัฒนาการมาโดยตลอดเช่นกัน
ในสมัยก่อนน้ำบาดาลค่อนข้างตื้นจึงทำให้กาารหาน้ำมาใช้เป็นเรื่องง่ายหรือการเจาะบดาลก็ทำได้ง่าย ดังนั้นเราจึงสามารถขุดบ่อลึกประมาณไม่ถึง 10 เมตร ก็ถึงชั้นน้ำบาดาลและเราก็มีน้ำใช้ได้ตลอดทั้งปี ปัจจุบันมีจำนวนผู้คนมากขึ้น ความต้องการในการใช้น้ำก็มากขึ้นด้วยเช่นกัน ดังนั้นระดับน้ำบาดาลก็ลดลงไปเรื่อยๆ จึงทำให้น้ำบาดาลก็อยู่ลึกลงไปบางที่ต้องเจาะบาดาล 100 เมตร ถึงจะเจอน้ำใช้
กล่าวคือเราต้องขุดลึกลงไปหลาย 10 เมตร จึงจะเจอน้ำ และมันก็เกินกำลังของคนที่จะขุดด้วยจอบกับเสียม จึงต้องหาวิธีการและอุกรณ์ที่ทันสมัยใช้เครื่องมือใหญ่ๆ เข้ามาช่วย เช่น เครื่องเจาะน้ำบาดาล เป็นต้น

การสำรวจน้ำบาดาลหรือการหาปริมานของน้ำบาดาลในปัจจุบัน เป็นการสำรวจที่ใช้หลักการและวิธีการง่ายๆ คือ น้ำเป็นตัวนำไฟฟ้า ดังนั้นเราก็จะปล่อยกระแสไฟฟ้าลงไปในชั้นดินและหินข้างล่าง แล้ววัดค่าความต่างศักย์ของไฟฟ้า จากนั้นก็จะนำมาคำนวนตามสูตร V = IR (กฏของโอห์ม)
เมื่อเราทำการปล่อยกระแสไฟฟ้า (I) ซึ่งเราได้ทราบค่าของกระแสไฟฟ้า แล้วจึงวัดค่าความต่างศักย์ (V)ว่าได้ค่าเท่าไหร่ เราก็ใช้วิธีการคำนวนหาค่าความต้านทานไฟฟ้า (R) ได้ ซึ่งวิธีการนี้เรียกว่าการสำรวจน้ำบาดาล
แบบ รีซีสติวิตี้ (Resistivity Survey) ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก ซึ่งความน่าจะเป็นของการสำรวจด้วยวิธีนี้ ก็ประมาณ 80 เปอร์เซนต์
ติดต่อสถานที่ทำการของเจ้าพนักงานน้ำบาดาลประจำท้องที่ ในเขตน้ำบาดาลโดยยื่นคำขอ ตามแบบ นบ.1 พร้อมแนบสำเนา
1) หนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน
2) หนังสือมอบอำนาจและสำเนาประจำตัวบัตรประชาชนของผู้มอบอำนาจ (กรณีผู้ขอรับใบอนุญาตฯ ไม่มายื่นด้วยตนเอง พร้อมติดอากรแสตมป์ 30 บาท)
3) หนังสือใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (กรณีโรงงานอุตสาหกรรม)
4) หนังสือรับรองนิติบุคคล (กรณีผู้ขอรับใบอนุญาตฯ เป็นนิติบุคคล)
พนักงานน้ำบาดาลประจำท้องที่ออกใบรับคำขอและดำเนินการตรวจสอบเอกสาร ซึ่งจะทำการตรวจสอใช้เวลาภายใน 1 วันทำการ หากเอกสารและหลักฐานไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน แจ้งให้ผู้ขอรับใบอนุญาตทราบเพื่อทำการยื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมอีกครั้ง โดยผู้ขออนุญาตฯ จะต้อองมีการชำระค่าธรรมเนียมคำขอ 10 บาท
เมือเอกสารหลักฐานมีความครบถ้วนแล้ว จะทำการเสนอผู้มีอำนาจดำเนินการพิจารณาออกใบอนุญาต / ไม่ออกใบอนุญาต
ในกรณีที่ได้รับอนุญาตแล้ว
จะทำการแจ้งผู้ขอรับใบอนุญาตให้มารับใบอนุญาตและชำระค่าธรรมเนียม
ในกรณีที่ไม่ได้รับอนุญาต
แจ้งเหตุผลพร้อมทั้งสิทธิอุทธรณ์ให้ผู้ขอรับใบอนุญาตได้รับทราบ
หมายเหตุ :
ในกรณีที่มีการขอต่ออายุใบอนุญาตเจาะบาดาลเขตลาดพร้าว การขอรับใบแทน การขอโอน และการขอแก้ไขใบอนุญาต ให้ยื่นคำขอพร้อมเอกสารหลักฐาน ณ ที่ทำการของพนักงานน้ำบาดาลประจำท้องที่เพื่อพิจารณาคำขอต่อไป
ระยะเวลาในการพิจารณาขอเจาะบาดาล
1. พื้นที่ในเขตวิกฤตการณ์น้ำบาดาล
(รวม 7 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี นครปฐม พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี สมุทรสาคร สมุทรปราการ)
ขนาดบ่อน้ำบาดาล : 2-3 นิ้ว
ปริมาณน้ำบาดาล : ไม่เกินวันละ 100 ลบ.ม.
ระยะเวลาดำเนินการ : 2 วันทำการ
ขนาดบ่อน้ำบาดาล : 4 นิ้วขึ้นไป
ปริมาณน้ำบาดาล : มากกว่าวันละ 100 ลบ.ม
ระยะเวลาดำเนินการ : 17 วันทำการ
2. พื้นที่นอกเขตวิกฤตการณ์น้ำบาดาล (รวม 70 จังหวัด)
ขนาดบ่อน้ำบาดาล : ไม่เกิน 4นิ้ว
ปริมาณน้ำบาดาล : ไม่เกินวันละ 300 ลบ.ม.
ระยะเวลาดำเนินการ : 2 วันทำการ
ขนาดบ่อน้ำบาดาล : 5 นิ้วขึ้นไป
ปริมาณน้ำบาดาล : มากกว่าวันละ 300 ลบ.ม.
ระยะเวลาดำเนินการ : 17 วันทำการ
แจ้งผลการพิจารณา
แจ้งผู้รับใบอนุญาตชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ตามขนาดบ่อ
แจ้งผลการพิจารณาไม่ออกใบอนุญาต
แจ้งผลการพิจารณาและเหตุผล พร้อมทั้งสิทธิอุทธรณ์ให้ผู้ขอรับใบอนุญาตทราบ
ระยะเวลาดำเนินการ : 2 วันทำการ
เป้าหมายของเรา

เราจะเป็นบริษัทอันดับต้นๆ ที่ให้บริการเจาะบาดาลในพื้นที่เขตลาดพร้าว เพื่อเพิ่มความสามารถในการมีน้ำใช้ในธุรกิจของลูกค้าเพื่อความได้เปรียบทางด้านการแข่งขัน
ในจังหวัดเขตลาดพร้าว เศรษฐกิจสำคัญๆ รวมไปถึงทั่วภูมิภาคประเทศไทย เราให้บริการด้วยความจริงใจตรงไปตรงมา สะดวก ง่ายรวยเร็ว แจ้งราคาชัดเจนก่อนลงหน้างานไม่เก็บเงินก่อน โดยใช้เครื่องมืออุปกรณ์ทันสมัยมีความเหมาะสมกับพื้นที่หน้างานนั้นๆของลูกค้า
เราคือทีมงานที่มีคุณภาพเป้าหมายชัดเจน มุ้งพัฒนาที่ต้องการยกระดับและรักษามาตรฐานในการให้บริการให้ดีเลิศยิ่งๆขึ้นไป เราจึงเป็นทีช่างเจาะบาดาลเขตลาดพร้าว ที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้าตลอดไป
สรุปเจาะน้ำบาดาล กับเราดีอย่างไร

เราเป็นบริษัทเจาะบาดาลเขตลาดพร้าว จึงจะทำให้ มีความสะดวก รวดเร็ว ร่วมไปถึงอุปกรณ์ที่ทันสมัยเป็นทีมช่างเจาะบาดาลที่ได้รับใบประกออบวิชาชีพจากกรมทรัพย์ มั่นใจได้ในคุณภาพ
เพราะในการทำงานทีมช่างของเราได้มีการฝึกอบรมทำการเจาะบาดาล จึงทำให้มีความเข้าใจการเจาะบาดาล ทำงานตามขั้นตอนอย่างถูกวิธีเพื่อให้ได้งานที่ดีมีคุณภาพตามมาตฐาน
มีการแจ้งราคาชัดเจนก่อนทำงานไม่มีบวกเพิ่ม ไม่มีน้ำไม่เจอน้ำเราไม่คิดเงิน มีการรับปะกันที่ชัดเจน เพื่อความสะบายใจของลูกค้า
มีการตรวสอบ ความถูกต้องรีเช็คจะมีการเป่าน้ำบาดาลทดสอบ6-72 ชั่วโมง ให้แน่ใจก่อนส่งงานดังนั้น ลูกค้าไว้ใจได้เลยว่าลูกค้าได้บ่อบาดาลที่มีคุณภาพ มีความสมเหตุสมผลกับราคา ตามความต้องการของลูกค้าแน่นอน กับทีงเจาะบาดาลเขตลาดพร้าว ของเรา